เว็บไซต์ประกาศ ขาย-เช่า คอนโด บ้านเดี่ยว ที่ดิน ทาวน์เฮ้าส์ เชียงใหม่ ลำพูน ที่ดีที่สุด
เว็บไซต์ประกาศ ขาย-เช่า คอนโด บ้านเดี่ยว ที่ดิน ทาวน์เฮ้าส์ เชียงใหม่ ลำพูน ที่ดีที่สุด

อยากกู้ซื้อบ้าน...ควรทำอย่างไร?

11 กันยายน 2024 83
อยากกู้ซื้อบ้าน...ควรทำอย่างไร?

ก่อนที่คุณจะตัดสินใจกู้ จะต้องเตรียมตัวและตัวข้อมูลต่างๆ ให้ครบรอบด้าน เพื่อให้คุณได้เป็นเจ้าของบ้านในฝันพร้อมกับภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่หนักหนาจนเกินไป

      1. หาข้อมูลเกี่ยวกับสินเชื่อบ้านให้ครบ

       ก่อนตัดสินใจเลือกกู้บ้านกับธนาคารจะต้องศึกษาข้อมูลให้ครบรอบด้าน ตั้งแต่การเลือกธนาคาร การเลือกโครงการสินเชื่อ และการเลือกดอกเบี้ยที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถเตรียมความพร้อมทางการเงินได้มากที่สุด

เลือกธนาคารที่ตอบโจทย์ในการกู้เงินซื้อบ้าน

หากคุณกำลังมีแผนกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร แต่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกธนาคารไหนที่จะตอบโจทย์ในการกู้ซื้อบ้านที่จะทำให้ได้วงเงินสูง และดอกเบี้ยต่ำ สิ่งที่คุณต้องทำคือการหาข้อมูลสินเชื่อเพื่อบ้านของแต่ละธนาคารมาวางเปรียบเทียบกัน โดยข้อมูลที่ต้องใช้ในการเปรียบเทียบกัน ได้แก่

  • โครงการสินเชื่อบ้านที่ตอบโจทย์ของคุณ เช่น คู่รักที่กำลังร่วมกันสร้างความมั่นคงในชีวิต ก็มองหาโครงการสินเชื่อสำหรับคู่รัก ซึ่งเป็นวิธีกู้ร่วมซื้อบ้านที่ช่วยให้การอนุมัติเป็นไปได้ง่ายขึ้น 
  • วงเงินสินเชื่อจากราคาประเมิน เพื่อดูว่าธนาคารจะปล่อยกู้ให้คุณได้เต็มวงเงิน หรือให้กี่เปอร์เซ็นต์ของวงเงินที่ต้องการกู้ เพื่อที่คุณจะได้วางแผนสำรองในการหาเงินส่วนที่เหลือสำหรับใช้ซื้อบ้าน
  • ต้องเข้าใจเรื่องอัตราดอกเบี้ย
  • ในการผ่อนชำระเงินกู้บ้านกับธนาคารแต่ละเดือน จะมีการคิดดอกเบี้ยรวมไปด้วยในแต่ละเดือนตามอัตราที่กำหนด ซึ่งการเลือกอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการเลือกสินเชื่อบ้านที่เหมาะสมกับรายได้ของคุณ รวมถึงการกู้ซื้อบ้านดอกเบี้ยต่ำ จะช่วยให้คุณประหยัดเงิน และชำระหนี้หมดได้ไวขึ้นด้วย โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านจะมีด้วยกัน 2 ประเภทคือ
    • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบคงที่ (Fixed Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่เท่าเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดระยะเวลาการผ่อนชำระ
    • อัตราดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Floating Rate) เป็นอัตราดอกเบี้ยที่จะปรับขึ้นหรือลงตามประกาศของธนาคารเป็นระยะ ซึ่งผู้กู้จะได้รับอัตราดอกเบี้ยลอยตัวที่แตกต่างกันตามความสามารถในการชำระหนี้

แต่โดยส่วนใหญ่แล้วธนาคารจะคิดอัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ให้กับผู้กู้ในช่วง 1-3 ปีแรก    (ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นและโครงการ) จากนั้นจะเริ่มคิดอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว

2. เตรียมเอกสารยื่นกู้ให้พร้อม

การเตรียมเอกสารสำหรับยื่นกู้ให้พร้อมและครบถ้วน เป็นอีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้การพิจารณาสินเชื่อเพื่อบ้านได้รับการอนุมัติเร็วขึ้น คือ

    • เอกสารส่วนตัวของผู้ยื่นกู้ ได้แก่ บัตรประจำตัวประชาชน / บัตรข้าราชการ / พนักงานรัฐวิสาหกิจ, ทะเบียนบ้าน
    • เอกสารแสดงรายได้ โดยจะแบ่งตามกลุ่มอาชีพ คือ ประกอบอาชีพเป็นพนักงานประจำ จะใช้หนังสือรับรองเงินเดือน, สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 3 เดือน, สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน ประกอบอาชีพอิสระหรือเป็นเจ้าของกิจการ จะใช้สำเนาเดินบัญชีย้อนหลัง 12 เดือน, หลักฐานแสดงฐานะการเงินอื่น ๆ (พร้อมตัวจริง), หลักฐานการเสียภาษีเงินได้

 

        3. วางแผนเก็บเงินสำหรับซื้อบ้าน


เพราะว่าในการกู้ซื้อบ้านกับธนาคาร หรือการขอสินเชื่อเพื่อบ้านกับธนาคารนั้น ธนาคารจะมีการกำหนดวงเงินกู้สินเชื่อบ้านตามความสามารถทางการเงินของผู้กู้    ซึ่งจะประเมินจากรายได้ต่อเดือน รวมกันหนี้สินของผู้กู้ด้วย

ทำให้โดยทั่วไปแล้วผู้กู้จะได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อบ้านประมาณ 80-95% ของราคาบ้าน หรือในบางกรณีผู้กู้ก็อาจจะได้สินเชื่อเต็มวงเงิน ซึ่งก็จะขึ้นอยู่กับคุณสมบัติและเงื่อนไขสินเชื่อเพื่อบ้านของแต่ละธนาคารเอกสารหลักประกัน ได้แก่ สำเนาหนังสือสัญญาจะซื้อจะขาย, สัญญาวางมัดจำ

  

      4. จัดการหนี้เก่าให้เรียบร้อย

           สินเชื่อเพื่อบ้านเป็นเงินก้อนใหญ่ที่ทางธนาคารจะอนุมัติให้กับผู้กู้ ดังนั้นในการพิจารณา     สินเชื่อ ธนาคารจะดูจากความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ ประวัติการชำระหนี้ที่ผ่านมาว่าดีหรือไม่ รวมถึงการดูภาระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบันด้วย

โดยธนาคารจะตรวจสอบประวัติการชำระหนี้ของผู้กู้ผ่าน “เครดิตบูโร” ซึ่งถ้าผู้ยื่นกู้มีประวัติการชำระหนี้ที่ไม่ดี หรือยังชำระหนี้ไม่แล้วเสร็จจำนวนมาก เช่น บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือวงเงินจากการขออื่นๆ ที่ได้รับการอนุมัติจากสถาบันการเงิน ทางธนาคารก็จะยังไม่อนุมัติสินเชื่อให้กับผู้กู้ได้

แชร์ข้อมูลนี้ให้เพื่อนของคุณสิ
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัวและคุกกี้